04 มีนาคม 2020

ฉันเป็นเจ้าของโรงพยาบาล - ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้อำเภออุบลรัตน์ น่าอยู่ที่สุดในโลก

บทความร่วมประกวดสารคดี We are CSO ภาคประชาสังคม ใคร ๆ ก็เป็นได้ โดย จินต์จุฑา ธงภักดิ์

“อะไรที่เป็นของของเราเราก็มักจะดูแลและรักษาเป็นอย่างดี”

เพียงแค่หลักง่าย ๆ ธรรมดาของมนุษย์ ที่เมื่อเราเป็นเจ้าของสิ่งใดแล้วเราจะต้องดูแลรักษาของของเราให้ดีที่สุด แต่หากมองมาในบริบทของสังคมแล้ว อยากให้ทุกท่านได้ลองนึกดู ว่าเราเป็นเจ้าของอะไรบ้าง? เราเป็นเจ้าของถนนหรือไม่ เราเป็นเจ้าของต้นไม้สาธารณะหรือไม่เราเป็นเจ้าของเสาไฟหรือไม่ เราเป็นเจ้าของโรงพยาบาล หรือโรงเรียนหรือไม่

สิ่งเหล่านี้ เป็นของเราจริงแท้แน่นอน แต่ต้องยอมรับว่า เราทุกคนก็ต่างเป็นเจ้าของร่วมกัน เราต่างมีสิทธิที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่ง ๆ นั้นได้ ซึ่งปัญหามีอยู่ว่า เมื่อเราเป็นเจ้าของแล้ว เหตุใดเราจึงไม่ดูแลและรักษาสิ่งที่เป็นของเราให้ดี มีตัวอย่างที่เกิดปัญหาขึ้นมามากมาย เช่นขับขี่บนทางเท้า ลักขโมยสายไฟ ทิ้งขยะเกลื่อนกลาด อาชญกรรม เป็นต้น แท้จริงแล้วยังมีปัญหาอีกจำนวนมาก ที่ยังเกิดอยู่ในสังคมไทย เพียงแต่ว่าปัญหาที่ว่ามาเหล่านี้ ไม่ได้เกิดมาเพียงปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ไม่ว่าจะเป็นระบบของโครงสร้างจิตสำนึกกฎ ข้อบังคับ และอื่น ๆ อีกมาก ที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้ยังคงสะสม และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มทวีคูณมากขึ้น หากยังไม่มีแนวทางแก้ไขที่ดี

แต่ก็อย่าเพิ่งท้อใจไปเสียทีเดียว ยังมีหนทางแก้ไขอีกทางหนึ่งที่เกิดขึ้นจริง และประสบความสำเร็จแล้ว ที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น กับภารกิจสร้างอำเภออุบลรัตน์ ให้อยู่เย็นเป็นสุข และเป็นอำเภอที่น่าอยู่ที่สุดในโลก โดยมีแนวคิดที่ต้องการจะรักษาสุขภาพของผู้ป่วย ให้มากกว่าการรักษาแบบธรรมดาทั่วไป พร้อมยังรักษาไปถึงสภาพจิตใจ รวมถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นที่ต้องการจะพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน สร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับทุกคน

นายแพทย์อภิสิทธิ ธรรมวรางกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุบลรัตน์ ได้กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะรวยหรือจน เราทุกคน ต่างมีจุดร่วมที่สำคัญที่สุดคือ“ความสุข” และหากป่วย เราก็คงไม่มีความสุข คงจะกลายเป็นความทุกข์กายและทุกข์ใจ ท้ายที่สุดแล้ว ก็มักจะมาจบที่โรงพยาบาลเป็นหน้าที่ของแพทย์ ที่จะต้องดูแลรักษากายและใจของผู้ป่วย ซึ่งเมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น การรักษาก็ยิ่งเป็นที่ต้องการของผู้ป่วย

นายแพทย์อภิสิทธิ์ มองเห็นว่า หากไม่แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ ไม่ว่าจะสร้างอาคารสร้างห้องพักรองรับผู้ป่วยมากแค่ไหน ก็คงไม่พอรองรับผู้ป่วยได้เลย จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จำต้องดูแลและรักษาตั้งแต่ต้นตอของปัญหา

ที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์ เกิดปัญหาจำนวนเตียงไม่พอรองรับผู้ป่วย เมื่อเตียงของผู้ป่วยติดกัน ก็ส่งผลให้เชื้อโรคแพร่ถึงกันได้ง่าย การรักษาผู้ป่วยกับจำนวนแพทย์ ก็ไม่สอดคล้องกัน ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างนาน ในการมารักษาทางโรงพยาบาล จึงต้องการห้องพักรองรับผู้ป่วย และพื้นที่ในการรักษาดูแลผู้ป่วย รวมทั้ง ต้องการสร้างสุขภาพของผู้ป่วย มากกว่าการรักษาตามปกติ จึงได้ร่วมมือกับนักปราชญ์ชาวบ้านชาวอีสาน และองค์กรอื่น ๆ อีกมากมาย จนเกิดเป็นมูลนิธิพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีจังหวัดขอนแก่น

แนวคิดหลักของโครงการนี้ คือเน้นการมีส่วนร่วม ไม่ใช่เพียงแค่หมอพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ แต่หมายถึงการมีส่วนร่วมของทุกคน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโรงพยาบาลอุบลรัตน์ รูปแบบการทำงานของโรงพยาบาล อาศัยองค์ประกอบหลักที่เรียกว่า PPP คือ

Public - รัฐก่อสร้างตึก หรือสนับสนุนทางการแพทย์

Praviate - เอกชนสร้างอาคาร เครื่องมือแพทย์ และจ้างงานผู้พิการ

People - คือประชาชน มีส่วนร่วมบริจาค เพื่อสุขภาพดี เมื่อเจ็บป่วยมีห้องพิเศษนอนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริจาควันละ 3 บาทปีละ 1000 บาท ต่อปีเพื่อสมทบสร้างอาคารพิเศษ 6 ชั้น 80 ห้อง

ไม่เพียงแค่บริจาคเงินเพื่อสร้างอาคาร แล้วเป็นอันเสร็จสิ้นไป ผู้บริจาค สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับอาชีพ และสุขภาพได้ เพื่อพัฒนาศักยภาพและต่อยอดอาชีพของตนเอง เมื่อทุกคนรู้สึกว่า เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล เป็นเจ้าของร่วมกัน มีหน้าที่ที่ต้องดูแลรักษาของตนเอง คนในชุมชน ก็เริ่มเกิดจิตสำนึก ที่ต้องการแบ่งปัน แม้ตนเองจะไม่ได้ป่วยที่จะต้องนอนรักษา แต่ก็ยังต้องการบริจาค เผื่อคนที่เจ็บป่วยให้ได้รับการรักษาที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีงาม และเป็นการบรรลุเป้าหมายอย่างหนึ่ง คือการให้ทุกคนเข้าใจถึงการแบ่งปันซึ่งกันและกันมากขึ้น

ในส่วนของเงินบริจาค ทางโรงพยาบาลจะนำเงินส่วนหนึ่ง ไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้นักเรียนในชุมชน ที่สนใจต้องการจะเรียน เกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยเมื่อศึกษาเสร็จ ก็กลับมาพัฒนาชุมชนพัฒนาโรงพยาบาล ให้ก้าวหน้าต่อไปอีก ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพคนที่ดีอีกทางหนึ่ง อีกทั้ง ยังเป็นช่วยให้เด็ก ๆ ในชุมชน ได้รับการศึกษาที่ดีอีกด้วย

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ป่วย ในโรงพบาลอุบลรัตน์ เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็น เด็กเล็กที่ป่วยปอดบวม หรือ คณะพระสงฆ์ ที่เข้ามารับการรักษา ทุกคนต่างบอกว่า มีความสุข และขออนุโมทนาบุญ ให้แก่คนที่บริจาคด้วย เป็นการให้ที่ไม่มีสิ้นสุด และยังเป็นสิ่งที่สวยงาม คงต้องยอมรับด้วยความสัตย์จริงว่า การที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นสิ่งที่มีความหมาย ทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับจริง ๆ

โครงการที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์แห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงการร่วมมือของประชาชนที่เข้มแข็ง ความสามัคคี และพลังของชุมชนอันมากมาย ที่เป็นรากฐานสำคัญ ในการพัฒนาและต่อยอดต่อไปในอนาคต สำหรับพื้นที่อื่น ที่ยังเข้าไม่ถึงการรักษาที่ดี ยังมีโรงพบาบาลอีกมาก ที่เครื่องมือทางการแพทย์ไม่พอ เตียงรองรับผู้ป่วยไม่พอ หรือมีปัญหาเช่นเดียวกันกับที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์เคยประสบมา หรือเนื่องจากปัยจัยของตัวผู้ป่วยด้วย เช่น ไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิได้รับการรักษา หรือ ปัญหาทางด้านการเงิน หากโครงการเช่นนี้ ได้มีโอกาสเกิดขึ้นในหลาย ๆ พื้นที่ ได้เริ่มจัดการกับปัญหา และรับฟังคนในชุมชนมากขึ้น ก็คงเป็นสิ่งดีแน่นอน

สุดท้าย สำหรับโครงการที่โรงพยาบาลอุบลรัตน์ ถือเป็นโครงการที่ดีมากอีกหนึ่งโครงการ การพัฒนาคน พัฒนาชมชุน และสิ่งสำคัญทุกคนในพื้นที่สามารถเข้าถึงการรักษา ได้อย่างเท่าเทียม ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในด้านการรักษาได้ดีอีกทางหนึ่ง ผ่านการให้ความสำคัญ กับการรับฟังปัญหา ฟังเสียงจากคนในพื้นที่ ทำให้การแก้ไขได้อย่างถูกต้อง และตอบสนองความต้องการได้ครบถ้วน ซึ่งการเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ คือรากฐานที่มั่นคงที่สำคัญ ที่จะช่วยทุกคน ให้มีความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพมากขึ้น ให้ประเทศเกิดการพัฒนา และก้าวต่อไปในอนาคต

_____________________________

เขียนโดย จินต์จุฑา ธงภักดิ์
ขอขอบคุณรูปภาพจาก โรงพยาบาลอุบลรัตน์

เนื้อหาอื่นๆ

17 ธันวาคม 2019
28 พฤศจิกายน 2022
06 พฤษภาคม 2019

Copyright © 2013 THETHAIACT